
สวัสดีค่ะ สาวๆ ช่วงนี้จะเห็นทิฟพูดถึง แล้วก็รีวิวสกินแคร์บ่อยมากกกกกก
ใช่ค่ะ! ทิฟเป็นคนที่ชอบสกินแคร์มาก ชอบบำรุงผิวหน้า ชอบความรู้สึกที่ได้ปรนิบัติผิวหน้าตัวเองเป็นอย่างดี
มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทาครีม แล้วทิฟเป็นคนที่ขั้นตอนการบำรุงผิวเยอะมากก ใส่ใจเรื่องของผิวหน้ามากเป็นที่สุด
ชอบใช้ ชอบลอง แต่เคยมั้ยคะ ครีมบางตัวที่ใครๆบอกว่าดี สรรพคุณเริดมาก
ทำไมเราถึงใช้แล้วไม่เห็นผลอะไรเลย!!!! เฉยมาก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนหน้าสักนิดเดียว รู้มั้ยคะว่าทำไม?
เพราะเราก็ไม่รู้ความต้องการของผิวหรือปัญหาที่อยุ่ใต้ผิวจริงๆ ครีมแสนดีแสนแพงที่เราเลือกมาใช้ถึงไม่ได้ผลไงละคะ
แล้วจะรู้ได้ยังไงละว่าคุณผิวของเราเนี่ย เค้าต้องการอะไร แล้วอะไรที่เหมาะกับผิวของเรา?
ก็ไปตรวจผิวซะเลยสิคะ ร่างกายของเรายังต้องตรวจประจำปีเลย
เราก็ควรพาผิวหน้าของเราไปตรวจวิเคราะห์ประจำปีด้วยเครื่องตรวจผิว เพราะปัญหาผิวบางอย่างไม่เราสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
ไปดูกันค่ะว่ามีขั้นตอนยังไงบ้าง

ย้อนไปเมื่อสามอาทิตย์ก่อน ทิฟมีปัญหาผิวนิดหน่อยค่ะเรื่องรอยแดงบนผิว คือรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะเป็นแบบนี้มานานสักพักนึงแล้ว ก้เลยไปตรวจผิวหน้าที่ ELLA BACHE’ สาขา เอ็มควอเทีย พิกัดจะอยู่ตรง ชั้น 2 ตึก Thai Designer ด้านหลังเลยค่ะ จะอยู่ใน Take Care Beauty Salon & Spa ร้านใหญ่ๆเลยค่ะ ตรงเข้าไปเลย!

เครื่องตรวจสภาพผิว Skin Annalysis ของ Ella Bache’ จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ตัวนี้จะเป็นเครื่องที่เรียกว่า SkintexDiag ซึ่งเค้าไม่เหมือนกับเครื่องตรวจสภาพผิวของแบรนด์อื่นนะจ้ะ ตัวนี้จะเป็นเทคโนโลยีเฉพาะ วิเคราะห์ผิวทั้งใบหน้าและลำตัวแบบละเอียดกว่า 17 จุด!!!! ละเอียดมากกกก แล้วก็จะให้ผลที่ชัดเจน และแม่นยำ หลังการวิเคราะห์จะช่วยเราเลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับสภาพผิวของเราด้วยค่ะ


อย่างของทิฟเนี่ยทิฟคิดว่า ทิฟกังวลปัญหาผิวเรื่องริ้วรอย (สารภาพว่าจะเป็นคนกังวลเรื่องนี้มาก ทั้งๆที่ยังไม่มี!!)
แล้วก็คิดว่ารูขุมขนตัวเองน่าจะกว้างสักหน่อยนะ มีปัญหาเรื่องรอยแดงที่หน้าแก้มอยู่ตลอดเลย เป็นคนผิวผสม
ช่วงทีโซนและห้นาแก้มค่อยข้างมัน รู้สึกว่าผิวแพ้เหงื่อตัวเอง ผิวแพ้ง่าย จะแพ้อะไรที่เป็นเคมีมากๆ
แล้วก็เป็นคนที่ผิวบาง เพราะที่แก้มเนี่ยจะเห็นเส้นเลือดชัดเลยค่ะ


วันนี้ทิฟตรวจแค่ผิวหน้านะคะ รวมทั้งหมด 15 จุดค่ะ
ก็จะมี 11 ปัญหาผิวหน้า Radiance,Redness,Pigmentation Spots,Firmness,Hydration,Couperose,Sebum,Desquamation,Pore dilatation,Bacterial sources,Wrinkles
และ 4 ปัญหารอบดวงตา Dark circles,Puffiness,Eyelid slackening,Wrinkles




รูปแรกก็จะเป็นการตรวจในเรื่องความความมันบนผิว ของทิฟคือผิวผสมค่ะ มีความมันที่ผิวช่วงหน้าผากและหน้าแก้มเป็นพิเศษ
ส่วนรูปที่สองจะเป็นเรื่องของรูขุมชน ของทิฟนี่ไม่ถือว่าใหญ่ค่ะ รูขุมขนค่อนข้างกระชับ
รูปที่สาม Sebum พวกสิ่งอุดตันในรูขุมขนเกิดจากการที่เราอาจจะล้างหน้าไม่สะอาดพอค่ะ
(คิดว่าล้างสะอาดแล้วแต่พอมาตรวจผิวแล้ว โอโห้!!!! ไม่สะอาดพอสินะ )


ต่อมาก็จะตรวจด้วยเครื่อง จะเป็นเรื่องของความกระชับหยืดหยุ่นของผิว แล้วก็เรื่องรอยแดงที่บริเวณหน้าแก้มค่ะ ขอบอกเลยค่ะว่าหน้าทิฟเนี่ย ตึงกระชับม๊ากกกกก ผิวเด้งเด็กสุดๆ
แต่เรื่องรอยแดงที่หน้าแก้ม แล้วก็ผิวที่ค่อนข้างบางนี่สิคะ ค่อนข้างมีปัญหาอย่างที่กังวลจริงๆ
เรามาดูรูปกันดีกว่าค่ะว่าผิวของทิฟเป็นยังไงบ้างนะ

ทิฟมีปัญหาในส่วนนี้มากจริงๆ ประมาณ70% เลยล่ะค่ะ

ฝั่งซ้ายคือสภาพผิวที่มีปัญหาค่ะ ส่วนฝั่งขวาคือผิวที่ไม่มีปัญหา
ถัดมาก็จะเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะกับผิวของเรา
มากันที่สภาพผิวจริงๆของเราก่อนนะคะ ผิวทิฟเป็นผิวผสมค่ะ มีความมันเล็กน้อยช่วงทีโซนและหน้าแก้ม
Couperose แบบ แทบจะเต็มหลอด ก็คือผิวบางมากกก ขนาดที่ว่าเห็นรอยเส้นเลือดชัดมาก
ต้องระวังในส่วนนี้มากเป็นพิเศษ พี่เสาว์แนะนำว่าทิฟต้องทาครีมกันแดดเยอะๆและห้ามหน้าสดออกจากบ้านเด็ดขาด
เพราะไม่งั้นผิวจะถูกเบิร์น และเกิดอาการแพ้ได้ง่ายค่ะ ต่อมาที่มีปัญหาก็จะเป็น Sebum สิ่งอุดตันในรูขุมขน แล้วก็มีจุดด่างดำจากรอยกระนิดหน่อย แล้วก็ปัญหาผิวแพ้แดงที่ช่วงหน้าแก้ม
ส่วนฝั่งขวาคือสภาพผิวของเราที่ดีอยู่แล้ว เป็นสภาพผิวที่ไม่ต้องกังวล รูขุมขนทิฟค่อนข้างเล็กมากไม่มีปัญหาเลย ความชุ่มชื่นผิวค่อนข้างดี ผิวมีความกระชับยืดหยุ่น เรื่องริ้วรอยรอบดวงตาและอาการบวมน้ำไม่มีปัญหาค่ะ
โอเคที่นี้เราก็รู้แล้วว่าเรามีปัญหาต้องไหน้าง เราก็มาดูกันค่ะว่าทิฟต้องใช้สกินแคร์ตัวไหนบ้างที่เหมาะกับผิวของทิฟ
Ella Bache' เค้าจะมีสกินแคร์ของเค้าเลยค่ะ เป็นสกินแคร์สัญชาติฝรั่งเศส
ตัวที่ทิฟเลือกมาก็จะเป็นขวดที่ 1 ที่เป็น Serum Magistral Red Focus แล้วก็เลือกเป็น Tomato Radiance Toner กับ Tomato Cleasing Milk อีกตัว ไม่มีในนี้แต่เป็นตัวที่ทิฟเลือกมาเพราะอยากลอง เป็น
Pur’Aromatics Cream Detox ตัวนี้จะเป็น 7 in 1 ช่วยทั้งรอยแดง
ช่วยลดปัญหาผิวต่างๆ ทำให้กระจ่างใสขึ้น นุ่มขึ้นละเอียดขึ้น

เรากลับมาอยู่ที่ปัจจุบันกันค่ะ ทิฟก็ได้ใช้สกินแคร์เซทนี้ประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว
แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึงผลลัพธ์ เรามาดูแต่ละตัวกันดีกว่าค่ะว่าเป็นยังไงกันบ้าง

TOMATO CLEASING MILK
คลีนซิ่งทำความสะอาดสูตรน้ำนม 2 in 1 Face & Eye มีส่วนผสมของไลโคปีนจากมะเขือเทศออแกนิค
วิตามินอี และ Micro-Protine ทำความสะอาดล้ำลึกทั้งเครื่องสำอาง และมลภาวะประจำวัน
0% Parabens,Silicones,Mineral Oils,Colorant
สำหรับตัวนี้ทิฟรู้สึกว่า เช็ดเครื่องสำอางได้อย่างอ่อนโยน เหมาะกับวันที่แต่งหน้า แบบเบาๆสบายๆ
เวลาใช้ทิฟจะชอบใช้วิธีนวดวนบนผิวหน้า กลิ่นหอมๆจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าได้ดีเลยค่ะ




TOMATO RADIANCE TONER
สามารถใช้ได้สองแบบค่ะ จะใช้เป็นโทนเนอร์เพื่อเช็ดทำความสะอาดผิวหลังล้างหน้า
หรือจะใช้เป็น Essence ก็ได้ ขวดนี้ทิฟชอบมากกก ปกติทิฟเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้โทนเนอร์เท่าไหร่
แต่ขวดนี้เค้าทำทิฟติดใจตรงที่เค้าช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น ด้วยสารสกัดจากไลโคปีน+วิตามิน อี
ช่วยปรับสมดุลผิวของเราให้ดีขึ้น รู้สึกว่าความมันบนใบหน้าลดลง แล้วก็ช่วยปกป้องผิวเราจากมลภาวะ
ทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้น 0% Parabens,Silicones,Mineral Oils,Colorant ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือสิวอุดตัน
ขวดนี้มีกลิ่นหอมนะคะ แต่หอมแบบแพงๆ เวลาเช็ดที่ผิวแล้วมีความสุขมากกกก
แต่ถ้าใครไม่ชอบเช็ด ก็ใช้เป็น Essence ซะเลย ตบ ตบ ลงบนผิวแล้วสดชื่น
รู้สึกเหมือนว่าได้บำรุงอย่างล้ำลึก!







SERUM MAGISTRAL RED FOCUS 22.2% MINIMISES REDNESS
ขวดนี้ตรงกับปัญหาผิวที่ทิฟกังวลมากๆ ในเรื่องของรอยแดงที่ผิว
ขวดนี้จะเป็นเซรั่มฟื้นฟูสำหรับผิวแพ้ง่าย เนื้อจะเป็นสีขาวเป็นเนื้อน้ำนม บางเบาและซึมไวมาก!
ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวเลย ผิวจะดูฟูชุ่มชื่นและสดชื่นขึ้นด้วย
หน้าที่หลักของเค้าจะช่วยลดรอยแดง แล้วก็จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
ใครที่มีรอยแดงที่หน้าแก้มที่เกิดจากอาการแพ้ต้องขวดนี้เลยค่ะ
มีส่วนผสมของ Probioskin,Red vine,Cestrum,Raspberry pip oil
ทาเช้า เย็นก่อนลงครีมบำรุงตัวต่อไป เห็นผลใน 28 วัน แต่สำหรับทิฟก็เริ่มเห็นผลตั้งแต่สองวีคแรกแล้วค่ะ



HYDRA - MATTIFYING DETOX CREAM
หลอดนี้จะเป็นครีมดีท็อกผิวแบบ 7 in 1 ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นของผิว รักษาสมดุลบนผิวหน้า ลดความมัน
กระชับรูขุมขน ผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใสขึ้นอย่างอ่อนโยน อีกอย่างคือ ช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้นด้วย
เนื้อครีมตัวนี้จะมีความเข้มขนแต่ซึมสู่ผิวได้ไว มีกลิ่นหอมแบบอโรม่า กลิ่นเค้ามาจากการสกัด Aroma 16 ชนิด
เวลาใช้แล้วให้ความรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายเหมือนอยู่กลางทุ่งหญ้ายังไงอย่างนั้นเลย



ทิฟรู้สึกดีใจมากที่ตัดสินใจไปตรวจผิวที่ Ella Bache' ตั้งแต่วันนั้น อยากบอกเลยว่าแฮปปี้มากที่เราได้รู้ปัญหาที่แท้จริงของผิว และได้รู้ว่าผิวของเราต้องการอะไร จะได้ไม่ต้องไปกังวลในปัญหาที่ไม่ตรงจุด แล้วหลังจากที่ทิฟใช้สกินแคร์ของเค้า
รู้สึกได้เลยว่า ปัญหาผิวที่แท้จริงของเรามันดีขึ้นมาก ทั้งเรื่องรอยแดง ความมัน ความสมดุลของผิว
แล้วก็เรื่องความกระจ่างใสของผิว คือเห็นผลมากจริงๆ แล้วสกินแคร์ของเค้าทุกตัวเนี่ย เวลาใช้ให้ความรู้สึกลักซ์ชัวรี่มากก
ผิวได้รับการปรนบัติอย่างมีระดับ ทั้งเรื่องกลิ่น และ เทกเจอร์ ให้ความรู้สึกที่พิเศษ และให้ความรู้สึกว่า
นี่ละคือครีมของเรา .....ครีมที่เหมาะกับผิวของเราจริงๆ
สุดท้ายนี้ อย่าลืมพาผิวหน้าของเราไปตรวจสุขภาพบ้างนะคะ
แล้วเจอกันใหม่บล็อคหน้าค่ะ สาวๆที่รัก